Wednesday, June 15, 2011

What you'll get in the year 2012


You'll gain benefit from these article , by Trendwatching .... let's check these file out!

trendwatching.com Premium — What you'll get

Searchable Database by Trend, Industry & Examples

Trend Framework

All of 2011 + 2012's crucial consumer trends indexed in an easy-to-read framework, available 24/7. We also include a brief top 10 of macro trends, to give you even more context.

[+] See full list of trends covered


Theory, stats and more

Each trend has its own individual page with theory, statistics, insights and opportunities.


Trend examples

Each trend page also gives access to numerous related trend examples covering products, services and campaigns from brands around the world. All examples are indexed by industry, too.


Industries & Trends

You will also gain instant access to dedicated, constantly updated PowerPoint presentations covering 17 major B2C industries - from Food & Beverage to Financial Services. Using our Trend Framework and Database, each presentation outlines and analyses relevant industry trends, examples, stats andopportunities - creating a document that's ready to read, dissect, use and share. See a full list below of the industries covered.


  1. AUTOMOTIVE
    • (Car manufacturers, car rental companies)
  2. BEAUTY / PERSONAL CARE
    • (Cosmetics/ make-up, skincare, personal hygiene, hair care, grooming)
  3. CONSUMER ELECTRONICS
    • (Manufacturers of domestic appliances, computers, TV sets etc)
  4. DOMESTIC CARE
    • (FMCGs, supermarkets)
  5. EDUCATION
    • (Schools, colleges, libraries, online learning platforms, nurseries, training centers)
  6. FASHION
    • (Apparel, footwear, jewellery)
  7. FINANCIAL SERVICES
    • (Retail banks, insurance companies, investment banks, credit card issuers, mortgage advisors, payment providers and lenders)
  8. FOOD & BEVERAGE
    • (FMCGs, supermarkets, bars & restaurants)
  9. GOVERNMENT & PUBLIC SECTOR
    • (Governments, states, local authorities, councils and public utilities)
  10. HEALTH
    • (Gyms, spas, clinics, hospitals, pharmacies, drug companies)
  11. HOME & GARDEN
    • (Real estate, architecture, energy and interior, construction, garden & office design)
  12. MOBILE & TELECOMS
    • (Network providers, handset manufacturers, fixed line operators)
  1. MEDIA
    • (Online and offline publishers, newspapers, social media, magazines, television networks, radio networks)
  2. MUSIC & GAMING AND ENTERTAINMENT
    • (TV stations and networks, radio, film, record labels, entertainment venues, theaters, concert organizers, promoters, video game developers/ distributors.)
  3. NOT FOR PROFIT / SOCIAL CAUSE
    • (Charities, nonprofits, social enterprises, NGOs, fundraisers, voluntary organizations)
  4. TRANSPORT
    • (Airlines, airports, railways, ferries, postal/shipping companies, bike manufacturers, commuter services)
  5. TRAVEL & TOURISM
    • (Hotels, holiday operators, theme parks, cruise operators, tourist authorities)

Please note that if you're in Retail, Design, or Advertising/Marketing, virtually all of our content will automatically apply to your sector/discipline. Hence the large number of clients from the agency world, as well as from the Retail sector.

Do you have any questions about our industry coverage? Email Andrea Thorn, our Head of Client Services.


2011 + 2012 Trend Reports

2011 Trend Report

Premium clients Instantly receive the 100+ page 2011 Trend Report covering the key consumer trends: it's a best of the best of all summary of content in the database. Delivered to you in PowerPoint and PDF, it doubles as a ready-to-go trend presentation for your team or clients.


2012 Trend Report

Automatic receipt of the 2012 Trend Report upon publication on 17 November 2011. Brought to you in the same formats as the 2011 Report, as well as a bonus printed version delivered straight to your office.



Updates and Tips

Monthly Updates

Our dedicated Premium team adds up to 250 new trend examples to the database each month, 2 new trends and plenty of other bonus material — from videos to PPTs. You will receive these updates until May 2012.


Tips on how to apply

The Tips section helps you make the most of our Premium Service, with an emphasis on how to apply the trends, insights, and examples to your own business. And if you need any further advice, our Client Services team is always on hand to help.



Monday, June 13, 2011

MarketWatch: "ฟิลิป คอตเลอร์" มองเอเชียผงาด ในศตวรรต21

เรื่องราวจาก Phillip Kotler ครับ...น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับทิศทาง การตลาดในยุค 3.0 เช่นนี้ ครับ......


จีนขับเคลื่อน กลุ่มประเทศในเอเชียหนุน

นายศักดิ์ชัย เรืองกิตติกุล อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ สมาคมการตลาแห่งประเทศไทย และเลขานุการ  AMF Foundation ตัวแทนจากประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เป็นตัวแทนเข้าร่วมงานประชุมประจำปีของสหพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย (Asia Marketing Federation - AMF )  ที่บาหลี ประเทศอินโดนิเซีย เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา  โดยมีแขกผู้มีเกียรติ ผู้บริหารท้องถิ่นและนานาชาติ รวมทั้งนักการตลาดจากเอเชียกว่า 10 ประเทศ ญี่ปุ่น จีน ไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และแคนาดา กว่า 1,000 คน ร่วมการประชุม
"ฟิลิป คอตเลอร์" ปรมาจารย์ด้านการตลาดของโลก  มองเอเชียผงาดในศตวรรตที่ 21 สู่ยุคการตลาดในเอเชีย ผ่าน Marketing 3.0 ธุรกิจต้องร่วมรับผิดชอบต่อส่วนรวมและสังคมที่ลึกกว่าเดิม ช่วยเหลือสังคม ขจัดความยากจน ป้องกันสิ่งแวดล้อม
การประชุมครั้งนี้ "ฟิลิป คอตเลอร์" ปรมาจารย์ด้านการตลาด รับดำเชิญเข้าร่วมการประชุม และยังเป็นปีที่ปรมาจารย์ท่านนี้ครบรอบอายุ 80 ปี  โดยยังได้ร่วมเป็นประธานในการเปิด พิพิธภัณฑ์การตลาด 3.0 ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์การตลาดแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ในเมืองอูบุด แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของบาหลี  
 
ยุคทองเอเชีย จีนพลังขับเคลื่อน
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า ฟิลิป คอตเลอร์ ได้พูดถึงแนวโน้มของการตลาดในเอเชีย ว่า ในศตวรรตที่ 21 นี้ จะเป็นยุคของการตลาดในเอเชีย ไม่ว่าจะดูในด้านอัตราการเติบโตและการพัฒนาเทคโนลียี โดยมีประเทศจีนเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ หลังจากที่ปล่อยให้ยุโรปครอบครองในศตวรรษที่ 19 และอเมริกา เป็นผู้นำในศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา  โดยในยุคนี้ ซึ่งเรียกว่า  Marketing 3.0 มีการเพิ่มเติมสาระใหม่จาก  Legacy Marketing ในยุค 1.0และ 2.0 คือ ครอบคลุมทั้ง Functional Value, Emotional Value และ ต้องเข้าถึง Human Spirit
การตลาดถูกพัฒนาขึ้นเป็นลำดับจาก  Marketing1.0 คือมุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตลาด เน้นหลัก 4Ps เป็นหลัก คือ Product/ Price/ Place/ Promotion  พื้นฐานที่ทำให้เกิดการซื้อหรือกระตุ้นตลาด เป็นยุคทองของผู้ผลิต ผู้ขาย คุณค่า เน้นที่ฟังก์ชั่นนอลแวลู่ และ Marketing 2.0  เรียกว่า STP Segmentation คือการแบ่งตลาดตามกลุ่มเป้าหมาย และการวางตำแหน่งเพื่อครองใจลูกค้า หาจุดเด่นสร้างแรงจูงใจ สร้างตำแหน่งใน customer’s minds ตามด้วย CRM : Customer Relationship Marketing ซึ่งในปัจจุบันได้พูดถึง CEM: Customer Experience Management  สร้างเครือข่ายเครือข่ายลูกค้า โดยเฉพาะในยุคสังคมออนไลน์ สร้างความเชื่อใจกันเอง  เชื่อใน แบรนด์ และ บริษัท ในยุคนี้ให้ความสำคัญเรื่อง CSR: Corporate Social Responsibility แต่ก็เป็นคนดีของสังคม ยุคนี้เพิ่ม Emotional Value เข้าไปคู่กับ Functional Value
เอเชียผงาด Marketing 3.0
สำหรับในยุค  Marketing 3.0  ฟิลิป คอตเลอร์  เน้นว่า บริษัทผู้ผลิตต้องรับผิดชอบต่อส่วนรวมและสังคมลึกกว่าเดิม ช่วยเหลือสังคม ขจัดความยากจน ป้องกันสิ่งแวดล้อม การคงอยู่ของมนุษยชาติไม่ใช่แค่สโลแกนที่สวยหรู ไม่ใช่แค่ทำ transaction  ต้องฝังลึกในรากเหง้า หรือ DNA ของบริษัท Corporate Mission/ Vision /Value จริงจัง ยั่งยืน ตอบสนองต่อจิตวิญญาน ของลูกค้าได้อย่างแท้จริง การตลาดจะไม่แค่มุ่งเน้น การวางตำแหน่งในMind ผู้บริโภค หรือการผูกใจ Heart ผู้บริโภค แต่ต้องเข้าไปถึงจิตวิญญาน Spirit จนเกิดเป็นลัทธิ หรือสถาบัน การตลาดไม่ได้อยู่แค่ Content แต่ต้องมีContext ที่ดีเป็นเครือข่ายกัน ตั้งแต่ ผู้ป้อนวัตถุดิบ ลูกจ้างหรือพนักงาน คู่ค้า พันธมิตรช่องทางจำหน่ายต่างๆ จนถึงผู้ถือหุ้นสร้าง Value ใหม่ได้ SBE Social Business Enterprise บริษัทที่มุ่งหวัง แก้ไขปัญหา สังคมที่ยุ่งเหยิงมีแต่ความขัดแย้ง แก้ปัญหาความยากจน และความเสื่อมโทรมของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้ชีวิตประจำวันของคนดีขึ้น ผ่านพันธกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยมของบริษัท คุณค่าที่เน้น ในยุคนี้คือ Spiritual Value & Creative Value ให้กับลูกค้า นอกจาก Functional Value & Emotional Value
แนวคิดแบรนด์ใหม่ด้วย 3i Model
การสร้างแบรนด์ในความคิดใหม่ยุค 3.0 ภายใต้โมเดล 3i  คือ 1. Brand Identity  เน้นสร้างจุดยืนใน customer’s mind เหตุผลว่าแบรนด์ดีอย่างไร แตกต่างจากคนอื่นอย่างไร  2.Brand Image เน้นภาพลักษณ์ -ประสบการณ์ และ 5  ด้าน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เพื่อสร้างอารมณ์ลูกค้า 3.Brand Integrity คุณงามความดี  การสร้างความน่าเชื่อถือ  การมีรางวัล หรือมีมาตรฐานการรับรอง การยืนยัน นอกจากพื้นฐานยังมีการทำเพื่อสังคม ประเทศชาติ สิ่งแวดล้อม หรือส่วนรวม ซึ่งโมเดล 3i  จะช่วยให้แบรนด์มีการสร้าง 3 มิติ คือ เหตุผล อารมณ์ และจิตวิญญาน  มองลูกค้าเป็นคนที่มีจิตวิญญาน ต้องการมีส่วนร่วมทั้งส่วนตัวและสังคม  โดยฟิลิป คอตเลอร์ เตือนให้บริษัทรวมทั้งนักการตลาดเตรียมความพร้อม ด้วยแนวคิดที่เรียกว่า A-F Model ประกอบด้วย Activator / Browser / Creator / Developer / Executor / Financier ที่จะถูกเปิดตัวให้เห็นในเร็วๆนี้ 
ในการประชุมครั้งนี้ ฟิลิป คอตเลอร์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น AMF Honorary Fellow ผู้ทรงคุณวุฒิกิติมศักดิ์ของ AMF เป็นคนแรก
  

เบ็ดสองอันตกปลาแค่ตัวเดียว :: จากคุฯตัน

อ่านแล้วชอบและถูกใจกับแนวคิดแบบนี้ครับ.....


ผมชอบมองอนาคตธุรกิจร่วมกันแบบยาวๆ ไม่ใช่ใครให้ราคา“เลื่อยขา” เก่งกว่าก็เปลี่ยนคู่ค้าบ่อยๆ ทำธุรกิจกับใครแล้วผมชอบกอดคอโตไปด้วยกันยั่งยืน
 
ผมเชื่อในหลักการทำธุรกิจแบบ “ใช้ใจ” 
 สมัยยังทำธุรกิจที่เมืองชล ผมเคยเปิดร้านกาแฟแห่งแรกชื่อ “เอสเปรสโซ่” ขายดีมากจนต้องขยายอีกร้านชื่อ “ออดี้”
  “เฮียหยู” เจ้าของกาแฟอโรม่า ส่งเม็ดกาแฟกับเครื่องชงกาแฟระบบไอน้ำอย่างดีมาให้ผม 
 เปิดร้านไปแล้ว 7 เดือน แต่ยังไม่มาเก็บเงินสักบาท 
   เฮียบอกว่าเห็นผมเพิ่งเปิดร้านใหม่ๆ เลยอยากให้หมุนเงินสบายๆ ผ่านช่วงลำบากไปก่อน  
   “น้ำใจ” วันนั้นทำให้ผมเป็นลูกค้าเฮียหยูจนถึงวันนี้
   แต่ผมไม่ได้ซื้อแค่เจ้าเดียว เจ้าอื่นก็ซื้อด้วยเพื่อบริหารความเสี่ยง 
  ทุกครั้งที่ซัพพลายเออร์เจ้าใหม่ๆ มาให้ข้อเสนอคุณภาพดีกว่า ราคาถูกกว่า 
  ผมจะขอให้เฮียช่วยอธิบาย ถ้าหาคำตอบไม่ได้ เฮียต้องลดราคาให้ผม
 ตลอดชีวิตการทำธุรกิจ ผมเชื่อในหลักการ “ราคาที่เป็นธรรม” 
  ราคาอาจจะไม่ “ถูกที่สุด” ก็ได้ แต่ต้อง “สมเหตุสมผล”
 หลายครั้งที่ผมยินดีจ่ายในราคา “แพงกว่า” เพื่อแลกกับ  “โอกาส”
  โอกาสในการประหยัดเวลา โอกาสในการเรียนรู้  โอกาสการทำธุรกิจในระยะยาว ฯลฯ 
  โอกาสบางอย่างก็ไม่ได้วัดกันที่ “ตัวเงิน”
  ผมชอบมองอนาคตธุรกิจร่วมกันแบบยาวๆ ไม่ใช่ใครให้ราคา “เลื่อยขา” เก่งกว่าก็เปลี่ยนคู่ค้าบ่อยๆ 
  ทำธุรกิจกับใครแล้วผมชอบกอดคอโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน  
 ครั้งหนึ่งเครือ SCG เคยส่งคนมาสัมภาษณ์ว่าทำไมผมถึงเป็นลูกค้าซื้อกล่องกระดาษกับเขาถึง 9 ปี  
  นั่นเพราะผมไม่ได้มองเขาเป็นแค่ “คู่ค้า” แต่ถือว่าเราเป็น “ผู้ร่วมทุน”
  ผมเป็นลูกค้าใช้กล่องเป็นล้านใบ ถ้าเขาลงทุนเครื่องจักรผลิตสินค้าให้เรา แล้วผมเปลี่ยนเจ้าบ่อยๆ จะทำธุรกิจกันยังไง    
  ผมแฮปปี้กับการทำธุรกิจแบบ “ขายไส้กรอก ไม่เลี้ยงหมูเอง”
 แบ่งกันลงทุน แบ่งกันเสี่ยง แบ่งกันกำไร  
  อย่าค้าขายแบบเราอยู่ได้ แต่เขาอยู่ไม่ได้ 
  แต่มันต้อง "เขาอยู่ได้..เราอยู่ได้" ถึงจะไปกันยืด  
  บางครั้งผลประโยชน์ที่ดูเหมือนเราจะเสีย อาจหมายถึงโอกาสในการทำธุรกิจ 
   ผมได้ประสบการณ์ทำธุรกิจ "เบ็ดสองอันตกปลาแค่ตัวเดียว" มาจากการตกปลา 
 จะไปด้วยกันให้สนุก มันต้องต่างคนต่างได้ปลา
  ไม่ใช่คุณเก๋ากว่า เก่งกว่า เกี่ยวเบ็ดๆ อยู่คนเดียว แต่คนอื่นนั่งเซ็ง
  ถึงจะมีเบ็ดสองอัน แต่ตกปลาแค่ตัวเดียว..เหลือปลาให้คนอื่นตกบ้างก็ได้นะครับ
  ทำธุรกิจต้องใจกว้างๆ หลับตาข้างเดียวบ้าง 
  อย่าวาดเสือให้เขากลัว แต่จงเป็นหมูให้เขาเชือด 
  หันมาถามตัวเองอีกที วันนี้นอกจาก “ผลประโยชน์” และ “คนที่เรารัก” แล้ว
  รอบตัวเรายังมี “คนที่รักเรา” เหลืออยู่กี่คน

Power of everything

สวัสดีครับ      ยอมรับว่าห่างหายไปจากการ ทำ Blog ตนเองกว่า 1 ปี ...... ไม่ได้หลงลืม หรือ ขาดความสนใจสำหรับการเขียน Blog หรือ หาข้อมูล ...