Friday, December 9, 2011

อะไรจะเกิดขึ้นในปี 2555

แค่พาดหัวไว้  ความน่าสนใจ ของบทความนี้ก็ เกิดขึ้นทันทีครับ.  เป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับเรา ๆ ที่เป็นทั้งลูกจ้าง , เจ้าของกิจการ , ผู้บริหารทุกระดับ สำหรับการคาดการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในปี 2555/2012 นี้.  ครับ.  ซึ่งบางส่วน และ หลายส่วน เป็นผลกระทบที่ต่อเนื่องจาก ปีนี้ เช่นกันครับ.



อนาคตของยูโร เงินยูโรเริ่มขึ้นเมื่อปี 1999 สำหรับเงินตราทางบัญชี (accounting currency) และเริ่มมีเหรียญกษาปณ์และธนบัตรในปี 2002 หากย้อนหลังไปก่อนหน้านั้น การรวมตัวของประเทศต่างๆ ในยุโรปตั้งแต่ยังเรียก EEC (European Economic Community) มาเป็น EC (European Community) จนถึงปัจจุบันที่เป็น EU (European Union) จะเห็นว่าวิวัฒนาการซึ่งรวมหมายถึงการเตรียมตัว (และอาจเตรียมใจด้วย) ได้ทำด้วยความเป็นระเบียบรอบคอบและค่อยเป็นค่อยไปด้วยความมั่นใจ พูดก็พูดเถอะมันยังเป็น Model  ให้ระบบเศรษฐกิจอื่นนำมาเป็นแบบอย่าง เช่น ASEAN ของเรานี่แหละ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมารุนแรงในปี 2011 นี้เองที่ทำให้หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า EU จะแตกไหม? และจะยังมีเงินสกุลยูโรอยู่หรือเปล่า? สำหรับผมแล้วผมเชื่อว่า EU มาได้ไกลเกินกว่าจะล้มเหลว การปรับตัวอย่างรุนแรงในบางประเทศสมาชิกจนถึงขั้น “ไล่ออก” อาจจะเกิดขึ้น (ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสไม่สูงนักก็ตาม) แต่ผมเชื่อว่า EU ยังคงอยู่ และเงินยูโรก็ยังคงอยู่เช่นกัน

เรื่องต่อไปสภาวะเศรษฐกิจไทย ผมยังมีความเชื่ออยู่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นได้  อย่างที่ได้เรียนไว้ในเดือนที่แล้วว่าน้ำท่วมจะทำให้เศรษฐกิจไทย "เซ" ไป หลายๆ ท่านในขณะนี้ก็ได้ให้ความเห็นไปในแนวทางนั้น เชื่อว่าในไตรมาสที่ 2 ก็จะดีขึ้น ในเดือนนี้ผมก็เลยอยากจะทำนายต่อไปว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะลดลงได้ก็เพียงอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่ทางการจะยืนอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้นเพื่อเฝ้าดูอัตราเงินเฟ้อ หากเริ่มกลับมาก็จะกลับมาสู่ tightening  Cycle อีกครั้ง ส่วนตัวผมคิดว่า Cycle ที่ว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็วกว่าเริ่มต้นครึ่งหลังของปี 2555 สิ่งที่ผมค่อนข้างห่วง ก็คือ ฐานะการคลังและหมายรวมถึงวินัยการคลังของประเทศ การต้องใช้เงินมากในการฟื้นฟูประเทศจากเหตุการณ์ในปีนี้ และหากรวมถึงคำมั่นสัญญาในนโยบายที่เคยให้ไว้ตอนเลือกตั้งต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล และอาจจะทำให้วินัยทางการคลังย่อหย่อนลงไป จริงอยู่การยืดหยุ่นบ้างสามารถทำได้แต่คงไม่ถึงหย่อนยานนะครับ ข้อเท็จจริงคือนโยบายการคลังดูแลและรับผิดชอบโดยนักการเมือง 100% หากเรามีนักการเมืองที่ดี วิสัยทัศน์กว้างไกล ยืดหยุ่นแต่ไม่หย่อนยาน คิดผลกระทบในระยะยาว และสัญญาว่าจะไม่หนีไปไหน ก็จะ

น่าเบาใจได้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายมากในอนาคต ดูเอาตัวอย่างที่ยุโรปตอนนี้ก็คงเข้าใจดี
     

การเคลื่อนย้ายเงินทุน (Capital Flow) เรื่องยากที่จะเข้าใจแต่มีอิทธิพลต่อตลาดเงินเหลือเกินในยุคนี้ ทุกๆ คนต่างก็ฟันธงว่ายุโรปแย่  อเมริกาก็แย่ (กว่า) แล้วเงินจะไปไหนนอกจากเอเชีย  ซึ่งคงยากที่จะปฏิเสธเมื่อพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ แต่อย่างที่เรียนไว้ คือ  เรื่อง Capital Flow เป็นเรื่องยากที่จะทำนายต้องอาศัยอารมณ์ศิลปินพอสมควร หากท่านเป็นนักลงทุนประเภทระยะยาวและเงินของท่านเป็นเงินเย็น (ที่ไม่ใช่เยนญี่ปุ่น) แล้วผมก็คิดว่า Asia is a good bet  แต่หากท่านเป็นนักลงทุนประเภทเข้าเร็ว  ออกเร็ว คงต้องใช้วิจารณญาณเพิ่มเติม เพราะไม่งั้นท่านอาจจะติด (จะติดหุ้น,currency ,ทอง ,น้ำมัน ,ข้าว ได้ทั้งสิ้น) ด้วยความเร็วของข้อมูลข่าวสารยุคปัจจุบันที่ไหนของถูกที่สุด มีโอกาสทำเงินมากที่สุด ถึงแม้ว่าระบบเศรษฐกิจจะยอดแย่ เงินก็จะไปที่นั่นครับ ผมยังมีความเชื่อว่าหุ้นในอเมริกา รวมถึง asset อื่นๆ ในประเทศนั้นมีราคาถูกลงมามาก ดังนั้นผมเชื่อว่าจะมีการลากยาวๆ ในราคา asset ที่อเมริกา ผมเชื่อว่ามีการเก็บหุ้นดีๆ (ซึ่งหมายรวมถึงบ้านและที่ดินทำเลดี ๆ) มาโดยตลอดกอปรกับค่าดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงมามากในปีที่กำลังจะผ่านไป ขอได้โปรดติดตาม

ส่วนตลาดในเอเชีย ผมก็ยังเชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนตลาดเล่น  ตลาดอย่าง TIP (Thailand , Indonesia ,Philippines) น่าจะถึงจุดเริ่มอิ่มตัวถึงอิ่มตัว หลังจากวิ่งมา 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดที่เคลื่อนไหวบวกน้อยกว่า เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น น่าจะเป็นโอกาสของเขาในปี 2012
   

ขอให้ทุกท่านโชคดีในปี 2012 ที่กำลังจะมาถึงครับ

ที่คนไทยและต่างชาติต้องการคือ Action Plan ไม่ใช่รายงานการประชุมของคณะกรรมการ

เช้านี้อ่านบทความวิเคาระห์ จาก นามปากกา กาแฟดำ ได้แสดงความคิดเห็นเรื่อง Action Plan ของทางภาครัฐบาลเกี่ยวกับเรื่อง การวางแผนรองรับและพัฒนา ในเรื่องการฟื้นฟู ศก. ในเชิง มหภาค...... อย่างไร?



ผมหวั่นๆ อยู่ว่ากระบวนสร้างความมั่นใจในเวทีระหว่างประเทศ

Tags : 
ที่คนไทยและต่างชาติต้องการคือ Action Plan ว่าไทย "กลับสู่ภาวะปกติ"หรือ Thailand is Back in Business หลังน้ำท่วมใหญ่คราวนี้จะเชื่องช้าไม่ทันกาล เพราะมีคณะกรรมการมากมายหลายชุดเหลือเกิน

 แต่ขาดระดับนำทางการเมืองที่จะตัดสินฟันธงและเดินเครื่องอย่างชัดเจน เพื่อเรียกร้องความมั่นใจให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็วฉับพลันเพียงพอ

 จึงไม่มี Roadmap ที่แกนนำรัฐบาลและเอกชนของไทยที่จะนำไปบอกกล่าวกับคนทั้งโลกว่าเรากำลังจะเดินไปในทิศทางไหน และการป้องกันไม่ให้เกิดภัยพิบัติอย่างหนักหน่วงเช่นนี้ไม่ให้เกิดซ้ำซ้อนอีกคืออะไรกันแน่

 การส่งใครต่อใครไปต่างประเทศขณะนี้ เพื่อ "สร้างความมั่นใจ" ให้นักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะไม่เกิดผลอะไร หากเราไม่สามารถตอบคำถามที่เขามีสั้นๆ และง่ายๆ ว่า แล้วคุณมีมาตรการใหม่อย่างไร จะทำเสร็จเมื่อไร ใครรับผิดชอบ

 ผมได้เห็นข่าว คุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนบอกกับนักข่าวว่าน้ำท่วมใหญ่ไทยครั้งนี้กระทบอาเซียนในภาพรวมด้วย เพราะไทยมีการผลิตเป็นอันดับสองของภูมิภาคนี้ และสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือ การเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างประเทศว่าไทยยังคงเป็น "ฐานการผลิต การค้า การส่งออก และการท่องเที่ยว" คุณสุรินทร์ บอกว่า ไทยควรต้องเร่งฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยวก่อนด้านอื่นๆ โดยใช้เวทีระดับโลกอย่าง Apec, G-20 และ Asean ในการประชาสัมพันธ์ให้ต่างชาติได้ทราบว่าไทยพร้อมแล้วที่จะดำเนินธุรกิจอีกครั้งหนึ่ง โดยมีมาตรฐานในการแก้ไขปัญหา

 ไทยต้องให้ความสำคัญกับประชาคมอาเซียนเพราะมีจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น และมีจีดีพีสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์

 หากทำได้ ไทยก็จะยังมีความสามารถในการแข่งขัน

 แต่เท่าที่ผมได้ยินจากนักลงทุนต่างประเทศเกือบทุกคนไม่ว่าในบ้านหรือนอกบ้าน สิ่งที่เขากังวล คือ รัฐบาลไทยวิเคราะห์ออกหรือยังว่าสาเหตุแห่งมหาอุทกภัยครั้งนี้มาจากไหน และมีวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในปีหน้าอย่างไร
 แน่นอนว่า เขายังต้องการจะลงทุนในประเทศไทย เพราะประเด็นด้านบวกของเราอีกหลายประการที่ยังดีกว่าเพื่อนบ้านเรา แต่ถ้าหากเขาจะลงทุนเพิ่มหรือขยายกิจการของเขาในไทย เขาจะต้องตอบคำถามสำนักงานใหญ่ที่บ้านว่าความเสี่ยงเรื่องภัยธรรมชาติในไทยในวันข้างหน้าสูงเพียงใด และหากประเมินกับความเสี่ยงตัวอื่นๆ แล้วไทยยืนอยู่ตรงจุดไหน

 วิธีการส่งคณะของไทยไปทำนองอ้อนวอนขอร้องให้ประเทศอื่นเห็นใจเข้าใจเรานั้น ได้ผลก็แต่เพียงด้านจิตวิทยาที่อาจทำให้เขาเห็นใจเรา เข้าใจเรา แต่เมื่อถึงขั้นตอนของการตัดสินใจว่าจะลงทุนในไทยเพิ่มหรือไม่ หรือจะย้ายฐานการผลิตไปไหนหรือไม่นั้น ข้อพิจารณาเรื่องความเห็นอกเห็นใจย่อมมาหลังการบวกลบคูณหารว่าไทยเรายังเป็นประเทศที่อยู่แถวหน้าของความน่าลงทุนหรือไม่
 ดังนั้น สิ่งที่ชาวโลกต้องการจากรัฐบาลไทยวันนี้ คือ "แผนปฏิบัติการ" ในรายละเอียด ขั้นตอนของการแก้ปัญหา แนวทางการวิเคราะห์ปัญหา และหนทางการแก้ไขในรูปธรรม

 ถึงวันนี้ ผมยังไม่เห็น Roadmap นี้ มีแต่คำกล่าวอ้างของคนในรัฐบาลว่าต่างชาติยังไว้วางใจ ยังไม่มีใครคิดจะย้ายฐานการลงทุน และรัฐบาลกำลังส่งตัวแทนไปเกลี้ยกล่อมให้ต่างชาติมีความไว้เนื้อเชื่อใจประเทศไทย

 ซึ่งแน่นอนว่าเพียงแค่นี้ไม่เพียงพอที่จะฟื้นฟูความมั่นใจไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติได้

 ที่ผมหวั่นๆ ก็คือว่า คณะกรรมการใหญ่ๆ ทั้งหลายที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมานั้นค่อนข้างจะเทอะทะ และมีชื่อคนมีตำแหน่งสำคัญมากมาย อีกทั้งยังมี "ดาว" และ "กูรู" ที่ต่างมีอัตตาสูงด้วยกันทั้งนั้น...หากไม่มีคนนั่งหัวโต๊ะที่สามารถสรุปประเด็น ตัดสินใจ และกำหนดเส้นตายสำหรับการทำแผนและเริ่มปฏิบัติการอย่างจริงจัง การแก้ปัญหาระดับชาติและระดับสากลอย่างนี้ก็ย่อมจะเกิดไม่ได้

 การตั้งคณะกรรมการเพื่อทำงาน กับเพื่อภาพลักษณ์นั้นย่อมมีความแตกต่างกันในเนื้อหาสาระและความน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง

 เราไม่ได้ขาดแคลนข้อมูล การวิจัยศึกษาเรื่องน้ำและภัยพิบัติอันเกิดจากน้ำ แต่เราขาดการตัดสินใจและประสานให้เกิดการดำเนินการอย่างแท้จริง

 วันนี้ เราต้องการข้อสรุปและแผนปฏิบัติ...มิใช่รายงานการประชุมเป็นปึกๆ เพื่อเบิกเบี้ยประชุมหรือด้วยความเชื่อว่าการตั้งคณะกรรมการคือการแก้ปัญหา

ต้นตอwriteสาระ : ยูโร2012 แค่แบ่งสายก็มันส์แล้ว (พร้อมตารางแข่งขัน)

ต้นตอwriteสาระ : ยูโร2012 แค่แบ่งสายก็มันส์แล้ว (พร้อมตารางแข่งขัน)

Monday, December 5, 2011

Zidane : The Legend of Play Maker

วันนี้  แนะนำนักฟุตบอล 1 ในตำนาน และ เป็น Idol สำคัญของผมในฐานะ ศิลปินลูกหนัง .... Zidane เป็นนักฟุตบอล ที่เล่นฟุตบอลได้ฉลาดที่สุด ในยุค 1990 - 2009 ก่อนที่จะ Retire ตนเองออกไป.
คงไม่ต้องเอ่ย ... ถึงผลงานของ เค้าคนนี้ เชิญติดตาม บทความและ Clip ของ ZIDANE ได้เลย .. ครับ.




ผมรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมาดูลีลาทักษะและพรสวรรค์ด้านฟุตบอลที่เหลือล้นของ ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานเพย์เมคเกอร์มหัศจรรย์ของวงการลูกหนังโลก ซึ่งครบเครื่องในทุกด้าน ทั้งการเลี้ยง จ่ายบอล ฟรีคิก ทำประตู ซึ่งผมบอกได้เลยว่า ซีดาน เป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดคนหนึ่งที่โลกเคยมีมา
ซีดาน เป็นมุสลิมที่ไม่เคร่งศาสนามากนัก ส่วนชีวิตครอบครัว ซีดาน ได้พบกับ เวโรนิก เฟร์นานเดซ นักเต้นชาวสแปนิช ซึ่งเป็นภรรยาคนปัจจุบันของเขา ขณะที่ ซีดาน ยังค้าแข้งอยู่กับ ทีม กานส์ ในฝรั่งเศส ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกันสองคน คือ เอ็นโซ่ และ ลูก้า ซึ่งทั้งสองคนกำลึงฝึกฟุตบอลอยู่ที่อคาเดมี่ของ  สโมสร เรอัล มาดริด
…………………………………………………………………..

Power of everything

สวัสดีครับ      ยอมรับว่าห่างหายไปจากการ ทำ Blog ตนเองกว่า 1 ปี ...... ไม่ได้หลงลืม หรือ ขาดความสนใจสำหรับการเขียน Blog หรือ หาข้อมูล ...